ภาษาอังกฤษ คือ Indian gooseberry มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Phyllanthus emblica Linn. จัดเป็นพืชตระกูลเดียวกับมะยม คือ ตระกูล Phyllanthus L. ปกติแล้วจะปลูกขึ้นในเอเชียเขตร้อน จึงสามารถเจริญเติบโตได้ดีในประเทศไทย โดยมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์คือ
- ต้น : เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 8-12 เมตร ลำต้นมีลักษณะคดงอ ไม่ตรง
- เปลือก : เปลือกนอกของลำต้นเป็นสีน้ำตาลอมเทา ส่วนเปลือกในเป็นสีชมพูสด
- ใบ : ใบเป็นช่อ เป็นใบเลี้ยงเดี่ยวเรียงสลับ ปลายใบแหลม โคนใบโค้งมน ขอบใบเรียบ มีสีเขียวอ่อน เรียงชิดติดกันบนก้านใบ
- ดอก : มีดอกสีขาวหรือเหลืองอ่อนเล็ก ๆ รวมอยู่บนกิ่งเดียวกัน โดยจะออกดอกประมาณเดือนกันยายน
- ผล : มีผลกลม เนื้อหนา สีเขียว ถ้าเป็นผลอ่อนจะมีสีเขียวอ่อน ถ้าเป็นผลแก่จะมีสีเขียวอมเหลือง ค่อนข้างใส ออกน้ำตาลนิด ๆ สามารถกินได้ มีรสฝาด เปรี้ยว ขม และอมหวาน โดยจะออกผลประมาณเดือนพฤศจิกายน-เดือนกุมภาพันธ์
มะขามป้อม 5ประโยชน์เหลือเฟือ
1. อุดมไปด้วยสารอาหารและเป็นแหล่งของวิตามินซี เชื่อว่าถ้าพูดถึงผลไม้วิตามินซีสูง หลาย ๆ คนคงจะนึกถึงส้ม แต่หารู้ไม่ว่าผลไม้อย่างมะขามป้อมนั้นมีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึงเท่าตัว แถมในมะขามป้อมยังมีสารแทนนินและโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารป้องกันการสลายตัวของวิตามินซี ทำให้วิตามินซีคงตัวอยู่ได้นานอีกด้วย
2. ดับกระหาย
เพียงแค่ทานผลมะขามป้อมสด ๆ ก็ช่วยแก้และลดอาการกระหายน้ำได้ โดยไม่ต้องนำไปทำเป็นน้ำผลไม้เลยค่ะ เพราะเมื่อเรากัดมะขามป้อม น้ำมะขามป้อมที่ซึมออกมาจะช่วยแก้อาการคอแห้งได้
3.แก้ไอ เจ็บคอ ลดเสมหะ แก้หวัด
ถ้าพูดถึงประโยชน์ดี ๆ ของมะขามป้อม แทบทุกคนคงจะต้องบอกว่าช่วยแก้ไอ แก้หวัด ละลายเสมหะ รักษาอาการเจ็บคอแน่นอน เพราะอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารกลุ่มแทนนิน แถมรสเปรี้ยวของมะขามป้อมยังช่วยละลายเสมหะและบำรุงเสียงได้ดี
4. แก้อาการผื่นคัน
ใครที่มีอาการผิวหนังอักเสบหรือเป็นผื่นคัน เราขอแนะนำให้นำใบมะขามป้อมมาต้มอาบ หรือนำเมล็ดมาเผาแล้วบดให้ละเอียด จากนั้นนำไปผสมกับน้ำมัน คนให้เข้ากันจนเหลวข้น แล้วนำมาทาแผล จะช่วยบรรเทาอาการคัน แก้พิษน้ำร้อนลวก และช่วยรักษาแผลได้
5.บำรุงผิว
วิตามินซีในมะขามป้อมยังสามารถบำรุงผิวพรรณ ชะลอการเกิดริ้วรอย และทำให้หน้าขาวสดใสได้ โดยนำมะขามป้อมมาฝนแล้วนำน้ำที่ได้ไปทาบริเวณหน้าและผิวของเราได้เลย

แหล่งที่มา : https://health.kapook.com
No comments:
Post a Comment